หม้อน้ำ (Boiler) คืออะไร?

ภาพที่ 1 : หม้อน้ำ คืออะไร

“หม้อน้ำ หรือ Boiler” เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเปลี่ยนน้ำเป็นไอน้ำด้วยการเพิ่มความร้อน เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น การผลิตไฟฟ้า โรงงานเคมี โรงงานผลิตอาหาร และการทำความร้อนในอาคารขนาดใหญ่ หม้อน้ำมีความสำคัญเพราะช่วยในการแปลงพลังงานความร้อนเป็นพลังงานเชิงกลหรือไฟฟ้า ซึ่งนำไปใช้งานในกระบวนการผลิตและอุตสาหกรรมต่างๆ

ประเภทของหม้อน้ำ

หม้อน้ำแบบท่อไฟ
(Fire Tube Boiler)

ภาพที่ 2 : หม้อน้ำแบบท่อไฟ คืออะไร

หม้อน้ำชนิดนี้มีการออกแบบให้เปลวไฟวิ่งผ่านท่อที่อยู่ในถังน้ำ เมื่อน้ำรอบๆ ท่อเกิดความร้อนจากเปลวไฟก็จะเปลี่ยนเป็นไอน้ำ และสามารถนำไอน้ำนี้ไปใช้ในกระบวนการต่างๆ ได้

ข้อดี   

  • โครงสร้างค่อนข้างง่าย ทำให้ติดตั้งและบำรุงรักษาง่าย
  • ราคาค่าติดตั้งและบำรุงรักษาค่อนข้างต่ำ

ข้อเสีย

  • ผลิตไอน้ำได้ในปริมาณที่จำกัดและไม่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการแรงดันสูง
  • ประสิทธิภาพต่ำกว่าหม้อน้ำแบบท่อน้ำ ทำให้ไม่เหมาะกับอุตสาหกรรมที่ต้องการไอน้ำจำนวนมาก

หม้อน้ำแบบท่อน้ำ
(Water Tube Boiler)

ภาพที่ 3 : หม้อน้ำแบบท่อน้ำ คืออะไร

หม้อน้ำประเภทนี้ออกแบบให้มีน้ำไหลผ่านท่อที่ได้รับความร้อนจากด้านนอก เปลวไฟที่เกิดจากการเผาไหม้จะทำให้น้ำในท่อเกิดความร้อนจนกลายเป็นไอน้ำ

ข้อดี

  • สามารถผลิตไอน้ำได้ในปริมาณมากและรองรับแรงดันสูงได้ดี เหมาะกับอุตสาหกรรมหนักที่ต้องการไอน้ำแรงดันสูง เช่น โรงไฟฟ้าและโรงงานเคมี
  • ประสิทธิภาพสูงกว่า Fire Tube Boiler ทำให้การใช้พลังงานมีความคุ้มค่ามากขึ้น

ข้อเสีย

  • มีโครงสร้างซับซ้อนและต้องการผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งและบำรุงรักษา
  • ราคาสูงทั้งในส่วนของการติดตั้งและการดูแลรักษา

หม้อน้ำไฟฟ้า
(Electric Boiler)

ภาพที่ 4 : หม้อน้ำแบบไฟฟ้า คืออะไร

หม้อน้ำไฟฟ้าใช้งานโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นแหล่งกำเนิดความร้อน โดยสามารถให้ความร้อนได้ทันทีเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการความสะอาด

ข้อดี 

  • ไม่มีการเผาไหม้เชื้อเพลิง ไม่มีการปล่อยมลพิษและเขม่าควัน จึงเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความสะอาดสูง
  • ติดตั้งง่าย ไม่มีส่วนประกอบที่ซับซ้อนมาก

ข้อเสีย 

  • ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก ทำให้ค่าใช้จ่ายสูง หากต้องการผลิตไอน้ำปริมาณมาก
  • ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการแรงดันสูงและต้องการความร้อนในปริมาณมาก

สาเหตุที่ทำให้หม้อน้ำเกิดการระเบิด

ภาพที่ 5 : สาเหตุที่ทำให้หม้อน้ำระเบิด

การระเบิดของหม้อน้ำเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้หากมีการดูแลรักษาและควบคุมที่ไม่ดีพอ ซึ่งมีสาเหตุหลักๆ ดังนี้

  1. แรงดันที่สูงเกินไป
    หากไม่มีการควบคุมแรงดันภายในหม้อน้ำให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย การสะสมแรงดันมากเกินไปจะทำให้หม้อน้ำเสี่ยงต่อการระเบิด การป้องกันด้วยการติดตั้งวาล์วระบายแรงดันและตรวจเช็กเป็นประจำเป็นสิ่งที่สำคัญ
  2. การกัดกร่อน
    การใช้น้ำที่มีแร่ธาตุและสารเคมีปนเปื้อนจะทำให้เกิดการกัดกร่อนภายในท่อ เมื่อท่อเกิดการกัดกร่อนมากจะเกิดการรั่วและเสียหาย ซึ่งอาจนำไปสู่การระเบิดได้
  3. การสะสมของตะกรัน
    น้ำที่มีแร่ธาตุสูงจะทำให้เกิดตะกรันสะสมในท่อ ซึ่งลดการนำความร้อนและทำให้หม้อน้ำทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้เกิดความเสียหายภายในหม้อน้ำและเสี่ยงต่อการระเบิด
  4. การบำรุงรักษาที่ไม่ถูกต้อง
    หากไม่มีการตรวจสอบและบำรุงรักษาหม้อน้ำอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเช็กวาล์ว ความดัน และอุณหภูมิ จะทำให้ความเสี่ยงในการระเบิดเพิ่มขึ้น
  5. ไม่ได้ตรวจสอบ
    หม้อไอน้ำไม่ได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยการใช้งานประจำปีจากวิศวกร ขาดการวางแผนตรวจสอบและบำรุงรักษา โครงสร้าง ส่วนประกอบและอุปกรณ์ความปลอดภัยของหม้อน้ำ

วิธีการดูแลรักษาหม้อน้ำให้ปลอดภัย
และยืดอายุการใช้งาน

ภาพที่ 6 : วิธีดูแลรักษาหม้อน้ำ

  1. ตรวจสอบและควบคุมแรงดันและอุณหภูมิ
    ควรตรวจเช็กแรงดันและอุณหภูมิในหม้อน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด เพื่อป้องกันการสะสมแรงดันมากเกินไป
  2. การล้างและกำจัดตะกรันในท่อ
    ควรทำความสะอาดท่อเป็นประจำเพื่อลดการสะสมของตะกรัน ซึ่งช่วยให้การนำความร้อนมีประสิทธิภาพและป้องกันการเกิดความเสียหายที่อาจนำไปสู่การระเบิดได้
  3. การใช้สารเคมีที่เหมาะสม
    ควรใช้สารเคมีที่ช่วยป้องกันการกัดกร่อนภายในท่อและหม้อน้ำ รวมถึงช่วยป้องกันการสะสมของแร่ธาตุในน้ำ
  4. ตรวจสอบความปลอดภัยของวาล์วและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ
    ควรตรวจเช็กวาล์วระบายแรงดันและระบบเตือนภัยในหม้อน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นทำงานปกติและสามารถรับมือกับแรงดันที่มากเกินไปได้
  5. การฝึกอบรมผู้ใช้งาน
    ควรมีการฝึกอบรมพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานหม้อน้ำให้มีความรู้ความเข้าใจในการควบคุมและการตรวจสอบสภาพหม้อน้ำอย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ

หม้อน้ำมีความสำคัญในหลายอุตสาหกรรมและจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ โดยการเลือกประเภทหม้อน้ำให้เหมาะกับการใช้งาน ตรวจสอบแรงดัน อุณหภูมิ การกัดกร่อน รวมถึงการล้างตะกรันเป็นประจำ จะช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มความปลอดภัย

อีกทั้ง ระบบตรวจสอบสภาพการณ์ (ESS) ของ Jorpor Plus ยังเป็นเครื่องมือที่สามารถให้ผู้ปฏิบัติงานรายงานการตรวจสอบสภาพการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงหม้อน้ำในโรงงาน ระบบนี้สามารถแจ้งเตือนไปยังจป. หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบว่ามีเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยง เพื่อให้จป. หรือผู้เกี่ยวข้องได้ทำการแก้ไขทันที เช่น แรงดันหรืออุณหภูมิที่เกินระดับปลอดภัย หรือหากพบแนวโน้มการกัดกร่อนและการสะสมของตะกรันที่อาจเสี่ยงต่อการระเบิด การแจ้งเตือนที่รวดเร็วช่วยให้ผู้ดูแลสามารถจัดการแก้ไขปัญหาได้ทันที ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งยังช่วยให้การบำรุงรักษาหม้อน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทาง Jorpor Plus พร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษาฟรี การันตีใครๆ ก็ใช้เป็น มีทดลองให้ใช้ฟรีแล้ว  กดคลิก ได้เลย

ให้คำปรึกษาฟรี!!!

คุณชัญญา เพชรมณีโชติ (แนน
chunya@factorium.tech
061-546961

คุณนรีพร ใสสม (ส้มโอ
Nareeporn@factorium.tech
065-9647198

Website: https://www.jorporplus.com/
Facebook: https://www.facebook.com/JorPorPlus
Line Official : https://lin.ee/dOulra8
Youtube: https://www.youtube.com/playlist?list=PL0b92T8M8rKX1jrpbfpBgozl6Dk3y-nu8