“ไซต์ก่อสร้าง” เป็นงานที่มีความซับซ้อนและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้งานเครื่องจักรขนาดใหญ่ งานในระดับความสูง การจัดการวัสดุที่หนักและมีความเสี่ยง รวมถึงการทำงานในสภาพแวดล้อมที่อาจมีความแปรปรวน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง สารเคมี หรือเสียงดังที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ การขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องมาตรการความปลอดภัย และการละเลยกฎระเบียบ อาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ปฏิบัติงาน รวมถึงผู้ที่อาจอยู่ใกล้เคียงไซต์งาน ดังนั้น การจัดให้มีมาตรการความปลอดภัยที่ชัดเจน การฝึกอบรม และการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างปลอดภัยและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจสร้างผลกระทบร้ายแรง

ความปลอดภัย
ที่เกี่ยวข้องกับบุคคล

ภาพที่ 1 : ความปลอดภัยของบุคคล

ภาพที่ 2 : ความปลอดภัยของบุคคล (ต่อ)

การดูแลเรื่องความปลอดภัยในไซต์งานก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับบุคคล ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE) เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย การฝึกอบรม การจัดการพนักงานในพื้นที่เสี่ยง และการทำงานร่วมกันอย่างมีระเบียบ ซึ่งทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อปกป้องชีวิต สุขภาพ และความปลอดภัยของทุกคนที่อยู่ในไซต์งาน

1. การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (PPE)

  • การสวมใส่ PPE ที่เหมาะสม เช่น หมวกนิรภัยแว่นตานิรภัย ถุงมือ หน้ากากป้องกันฝุ่น และรองเท้านิรภัย เป็นขั้นตอนแรกของการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในไซต์งาน ผู้ปฏิบัติงานควรตรวจสอบอุปกรณ์เหล่านี้ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและเหมาะสมกับงานที่ต้องทำ

2. การปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัย

  • บุคคลในไซต์งานทุกคนควรเข้าใจและปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัย เช่น หลีกเลี่ยงการทำงานในบริเวณที่เสี่ยงต่อการตกหล่น ห้ามนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาในบริเวณที่มีความเสี่ยงสูง และปฏิบัติตามสัญลักษณ์หรือป้ายเตือนที่ติดตั้งในพื้นที่

3. การฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างความรู้ด้านความปลอดภัย

  • การจัดฝึกอบรมเรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่ทำงานในไซต์งาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว หรือผู้เยี่ยมชม การอบรมนี้ควรครอบคลุมวิธีการใช้อุปกรณ์ PPE การระบุความเสี่ยงต่างๆ และขั้นตอนการปฏิบัติในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เพื่อให้ทุกคนมีความพร้อมในการป้องกันและรับมือเหตุไม่คาดฝัน

4. การทำงานเป็นทีมอย่างปลอดภัย

  • ความปลอดภัยในไซต์งานจะเป็นไปได้อย่างราบรื่นเมื่อทุกคนในทีมเข้าใจและปฏิบัติตามบทบาทและหน้าที่ของตนอย่างรับผิดชอบ ผู้ปฏิบัติงานควรช่วยเหลือกันสังเกตความเสี่ยง หากพบเห็นสัญญาณที่อาจเกิดอันตราย ควรแจ้งให้เพื่อนร่วมงานหรือผู้ดูแลรับทราบทันที การสร้างวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีมที่ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญในการลดอุบัติเหตุและปัญหาด้านความปลอดภัย

5. การควบคุมการเข้าถึงพื้นที่เสี่ยง

  • พื้นที่เสี่ยงในไซต์งานควรมีการจำกัดการเข้าถึง โดยผู้ปฏิบัติงานควรได้รับอนุญาตและมีความรู้ความเข้าใจในพื้นที่นั้นก่อนจะเข้าไป เช่น พื้นที่การทำงานบนที่สูง พื้นที่ทำงานกับสารเคมีอันตราย หรือบริเวณที่ใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ การควบคุมการเข้าถึงช่วยลดความเสี่ยงของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องในการเกิดอุบัติเหตุ

ความปลอดภัย
ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ไซต์ก่อสร้าง

ภาพที่ 3 : ความปลอดภัยเมื่ออยู่สถานที่ ไซต์ก่อสร้าง

ภาพที่ 4 : ความปลอดภัยเมื่ออยู่สถานที่ ไซต์ก่อสร้าง (ต่อ)

ความปลอดภัยในสถานที่ก่อสร้างเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน เพื่อให้สถานที่ก่อสร้างเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้ปฏิบัติงานและบุคคลอื่นที่อาจเข้ามาในพื้นที่ โดยมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ต้องได้รับการดูแล เช่น การจัดการพื้นที่ ระบบเตือนภัย การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกัน และการตรวจสอบสภาพแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ

1. การจัดระเบียบพื้นที่ก่อสร้าง

  • การจัดระเบียบพื้นที่ก่อสร้างอย่างเป็นระบบ เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสี่ยงในการทำงาน เช่น การจัดเก็บวัสดุและอุปกรณ์ให้เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางทางเดิน การสร้างเส้นทางที่ปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงาน และการกำหนดพื้นที่สำหรับการจัดเก็บวัสดุอันตรายโดยเฉพาะ

2. การติดตั้งป้ายเตือนและแนวรั้วป้องกัน

  • การติดตั้งป้ายเตือนในจุดเสี่ยงต่างๆ เช่น บริเวณที่มีการทำงานบนที่สูง พื้นที่ขุดลึก หรือจุดที่มีการใช้งานเครื่องจักรขนาดใหญ่ ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่ผ่านไปมาเข้าใจถึงความเสี่ยงและระมัดระวังมากขึ้น นอกจากนี้ การสร้างแนวรั้วเพื่อกั้นพื้นที่ที่อาจเกิดอันตรายยังช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง

3. ระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง

  • ระบบไฟฟ้าในไซต์งานก่อสร้างต้องได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และผ่านการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ นอกจากนี้ ควรติดตั้งแสงสว่างในพื้นที่ทำงานที่เพียงพอ โดยเฉพาะในจุดที่มีความเสี่ยง เช่น บริเวณการทำงานบนที่สูงหรือพื้นที่ทำงานในเวลากลางคืน

4. การติดตั้งระบบเตือนภัยและเส้นทางหนีภัย

  • สถานที่ก่อสร้างควรมีการติดตั้งระบบเตือนภัย เช่น เครื่องเตือนภัยไฟไหม้และสัญญาณเตือนต่างๆ เพื่อช่วยให้พนักงานได้รับการแจ้งเตือนทันทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน ควรมีการวางแผนเส้นทางหนีภัยที่ชัดเจน และจัดการฝึกซ้อมการอพยพอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทุกคนรู้วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

5. การควบคุมฝุ่นและมลภาวะ

  • ไซต์งานก่อสร้างมักเกิดฝุ่นละอองจากการขุดดิน การตัดหิน หรือการทำงานกับวัสดุต่างๆ ฝุ่นเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานได้ ควรมีการติดตั้งระบบระบายอากาศหรือใช้ผ้าใบคลุมในพื้นที่ที่เกิดฝุ่นมาก รวมถึงมีมาตรการป้องกันเสียงดัง เพื่อไม่ให้เกิดมลภาวะที่รบกวนพื้นที่ใกล้เคียง

6. การตรวจสอบและบำรุงรักษาพื้นที่ก่อสร้างอย่างสม่ำเสมอ

  • ควรมีการตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างและสภาพแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาที่อาจเกิดอันตราย เช่น พื้นที่ที่มีการขุดลึกอาจต้องมีการตรวจสอบการทรุดตัว การรั่วไหลของน้ำในบริเวณที่มีความเสี่ยง หรือการตรวจสอบอุปกรณ์และโครงสร้างชั่วคราวอย่างเป็นระบบ

ความปลอดภัย
ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรในไซต์ก่อสร้าง

ภาพที่ 5 : ความปลอดภัยเมื่อทำงานกับเครื่องจักร

ภาพที่ 6 : ความปลอดภัยเมื่อทำงานกับเครื่องจักร (ต่อ)

การใช้งานเครื่องจักรในไซต์งานก่อสร้างเป็นสิ่งจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน การดูแลและใช้งานเครื่องจักรอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ การปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรช่วยป้องกันอันตรายและรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่อยู่ใกล้เคียง

1. การตรวจสอบสภาพเครื่องจักรก่อนการใช้งาน

  • ก่อนเริ่มงาน ควรมีการตรวจสอบเครื่องจักรทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าสภาพเครื่องจักรอยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน และไม่มีปัญหาที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ การตรวจสอบนี้รวมถึงการเช็คชิ้นส่วนที่สึกหรอ สายไฟ อุปกรณ์ควบคุม และระบบเบรก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการใช้งานเครื่องจักรอย่างปลอดภัย

2. การบำรุงรักษาเครื่องจักรอย่างสม่ำเสมอ

  • ควรกำหนดตารางการบำรุงรักษาเครื่องจักรตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อลดการสึกหรอของชิ้นส่วนที่สำคัญ และเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพที่อาจทำให้เครื่องจักรขัดข้องหรือเกิดอุบัติเหตุระหว่างการใช้งาน การบำรุงรักษาสม่ำเสมอจะช่วยให้เครื่องจักรมีประสิทธิภาพสูงสุดและยืดอายุการใช้งาน

3. การให้ความรู้และฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงาน

  • การฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานให้เข้าใจวิธีการใช้งานเครื่องจักรอย่างถูกต้องและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ปฏิบัติงานควรรู้จักกับวิธีการควบคุม การเบรก การหยุดเครื่องจักรในกรณีฉุกเฉิน และวิธีป้องกันตัวเมื่อเกิดอันตราย การให้ความรู้เรื่องมาตรการความปลอดภัยนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้งานเครื่องจักร

4. การใช้เครื่องจักรตามข้อจำกัดและข้อกำหนด

  • เครื่องจักรแต่ละประเภทมีข้อจำกัดในการใช้งาน เช่น ความสามารถในการยกน้ำหนัก ความเร็วในการเคลื่อนที่ และสภาพพื้นที่ที่เหมาะสม การใช้งานเครื่องจักรเกินข้อกำหนดอาจส่งผลให้เกิดการชำรุดหรืออุบัติเหตุ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและข้อจำกัดที่กำหนดโดยผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด

5. การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันและระบบเตือนภัย

  • เครื่องจักรที่ใช้งานควรติดตั้งอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ที่ครอบป้องกัน ชิ้นส่วนเสริมป้องกัน และสัญญาณเตือนภัยเสียงหรือไฟ เพื่อแจ้งเตือนเมื่อมีผู้เข้าใกล้หรือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ระบบเตือนภัยที่เหมาะสมช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่อยู่รอบข้างสามารถรับรู้และระวังตนเองจากอันตราย

6. การจำกัดการเข้าถึงพื้นที่การทำงานของเครื่องจักร

  • ควรมีการจัดทำเขตห้ามเข้าบริเวณที่มีการใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการชนหรือกระทบกระแทกจากเครื่องจักร ผู้ปฏิบัติงานที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องควรหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้บริเวณที่มีการทำงานของเครื่องจักรขนาดใหญ่ และควรติดตั้งรั้วหรือป้ายเตือนเพื่อแจ้งให้ทราบถึงเขตอันตราย

7. การปิดใช้งานเครื่องจักรในกรณีฉุกเฉิน

  • ควรมีแผนการจัดการเหตุฉุกเฉินสำหรับการใช้งานเครื่องจักร เช่น การปิดใช้งานเครื่องจักรอย่างรวดเร็วในกรณีที่เกิดอันตราย การให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจวิธีการหยุดเครื่องจักรในกรณีฉุกเฉินและการแจ้งเตือนผู้ที่อยู่ใกล้เคียงจะช่วยให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้นการดูแลความปลอดภัยในไซต์งานก่อสร้างจำเป็นต้องคำนึงถึงทั้งด้านบุคคล สถานที่ และเครื่องจักร ผู้ปฏิบัติงานควรปฏิบัติตามกฎระเบียบและใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม ขณะที่สถานที่ก่อสร้างต้องจัดระเบียบและติดตั้งระบบเตือนภัย รวมถึงการตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องจักรเป็นประจำเพื่อให้มั่นใจว่าสภาพเครื่องจักรพร้อมใช้งานและปลอดภัย การดูแลความปลอดภัยเหล่านี้เป็นวิธีที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในไซต์งานก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ซึ่ง ระบบจัดการใบอนุญาตเข้าทำงาน (EWS) ของ Jorpor Plus ยังสามารถช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในไซต์งานก่อสร้าง โดยเฉพาะสำหรับงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น งานที่ต้องเปิด Work Permit ระบบนี้ช่วยให้ผู้รับเหมาสามารถขออนุญาตทำงานและได้รับการอนุมัติแบบ Real-Time จากเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งลดขั้นตอนการใช้เอกสารและทำให้กระบวนการทำงานรวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ระบบยังรองรับการอบรมและการทดสอบออนไลน์ ทำให้ผู้รับเหมาสามารถผ่านการฝึกอบรมและทดสอบด้านความปลอดภัยได้ ระบบนี้จึงช่วยให้การจัดการผู้รับเหมาเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัยในงานก่อสร้างและลดความเสี่ยงในการทำงาน ทาง Jorpor Plus พร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษาฟรี การันตีใครๆ ก็ใช้เป็น มีทดลองให้ใช้ฟรีแล้ว  กดคลิก ได้เลย

ให้คำปรึกษาฟรี!!!

คุณชัญญา เพชรมณีโชติ (แนน
chunya@factorium.tech
061-546961

คุณนรีพร ใสสม (ส้มโอ
Nareeporn@factorium.tech
065-9647198

Website: https://www.jorporplus.com/
Facebook: https://www.facebook.com/JorPorPlus
Line Official : https://lin.ee/dOulra8
Youtube: https://www.youtube.com/playlist?list=PL0b92T8M8rKX1jrpbfpBgozl6Dk3y-nu8