ประตูหนีไฟ (Fire Exit Door) คือ ประตูที่ถูกออกแบบมาเพื่อต้านทานการลุกลามของไฟและควันในกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ ใช้สำหรับการอพยพคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างรวดเร็วและปลอดภัย นอกจากจะช่วยลดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังช่วยควบคุมการแพร่กระจายของไฟในอาคารอีกด้วยสำหรับการกำหนดมาตรฐานและข้อกำหนดเกี่ยวกับประตูหนีไฟในประเทศไทย กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ได้แก่ กฎกระทรวงฉบับที่ 55 ..2543 พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร 2522 กฎหมายเกี่ยวกับประตูหนีไฟจะครอบคลุมไปถึงบันไดหนีไฟด้วย โดยมีรายละเอียดข้อกำหนดสำคัญที่สามารถสรุปโดยย่อได้ ดังนี้

อาคารที่ต้องมีบันไดหนีไฟ

ภาพที่ 1 : อาคารที่ต้องมีบันไดหนีไฟ

  1. อาคารที่มีความสูง ตั้งแต่ 4 ชั้นขึ้นไป (หรือสูงไม่เกิน 23 เมตร)
  2. อาคารที่สูง 3 ชั้น และมีดาดฟ้าอยู่เหนือชั้น 3 ซึ่งดาดฟ้ามีพื้นที่ ตั้งแต่ 16 ตารางเมตรขึ้นไป

เงื่อนไขของบันไดหนีไฟ

ภาพที่ 2 : เงื่อนไขของบันไดหนีไฟ

  • ต้องมีอย่างน้อย 1 จุด
  • ใช้งานได้ปกติ ไม่มีความชำรุด และไม่มีสิ่งกีดขวาง
  • ผลิตจากวัสดุที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด เช่น เหล็กหรือวัสดุทนไฟ

ความลาดชัน

  • อาคารสูงกว่า 4 ชั้นความชันไม่เกิน 60 องศา พร้อมชานพักทุกชั้น
  • อาคารต่ำกว่า 4 ชั้นความชันเกิน 60 องศาได้ หากยังคงความปลอดภัย

บันไดหนีไฟภายใน

  • ความกว้างไม่น้อยกว่า 80 เซนติเมตร
  • ผนังที่พาดผ่านต้องเป็นวัสดุทนไฟ
  • แต่ละชั้นต้องมีช่องระบายอากาศ (≥1.4 ตร.ม.) ที่เปิดสู่ภายนอก

บันไดหนีไฟภายนอก

  • ความกว้างไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร
  • ผนังที่พาดผ่านต้องเป็นวัสดุถาวรที่ทนไฟ

บันไดทุกประเภทต้องออกแบบให้ปลอดภัย มีไฟส่องสว่างตลอดเวลา และไม่มีสิ่งกีดขวางการระบายอากาศ การออกแบบและติดตั้งบันไดหนีไฟต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งาน เช่น การเชื่อมต่อกับเส้นทางอพยพฉุกเฉิน การติดตั้งไฟส่องสว่าง และการจัดวางในตำแหน่งที่เข้าถึงได้ง่าย

ลักษณะของประตูหนีไฟที่ถูกต้อง

ประตูหนีไฟที่ถูกต้องตามกฎหมายต้องมีลักษณะดังนี้

  • วัสดุที่ใช้ ประตูและกรอบประตูต้องทำจากวัสดุทนไฟ เช่น เหล็กหรือวัสดุที่ผ่านการทดสอบความทนไฟ ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐาน
  • ความสามารถในการทนไฟ ประตูต้องมีคุณสมบัติทนไฟได้นานไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง (หรือมากกว่านั้นตามข้อกำหนดของอาคาร)
  • ซีลกันควัน ต้องมีซีลหรือยางกันควันที่ช่วยป้องกันการลุกลามของควันผ่านรอยต่อ
  • ทิศทางการเปิด ต้องเปิดออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือทางอพยพ โดยไม่มีการล็อคที่ป้องกันการเปิดจากด้านใน และไม่มีสิ่งกีดขวางทางเดิน รวมถึงต้องติดตั้งอุปกรณ์ดึงปิดเอง (Self-Closing Device)
  • อุปกรณ์เสริม หากมีช่องกระจกในประตู ช่องดังกล่าวต้องทำจากกระจกเสริมลวดเพื่อความทนทานต่อไฟ และขนาดช่องต้องไม่เกิน 600 ตารางเซนติเมตร
  • ป้ายสัญลักษณ์ ต้องมีป้าย “ทางหนีไฟ” หรือ “Fire Exit” พร้อมลูกศรชี้ทิศทางที่มองเห็นได้ชัดเจน
  • ไฟส่องสว่างฉุกเฉิน ต้องติดตั้งใกล้ประตูหนีไฟเพื่อช่วยในการมองเห็น

ขนาดของประตูหนีไฟ

ภาพที่ 3 : ขนาดของประตูตามมาตรฐาน

ขนาดของประตูหนีไฟขึ้นอยู่กับข้อกำหนดตามประเภทของอาคาร โดยทั่วไปมีขนาดมาตรฐานดังนี้

  • ความกว้าง ไม่น้อยกว่า 80 เซนติเมตร
  • ความสูง ไม่น้อยกว่า 9 เมตร
  • จำนวนบานประตู อาจเป็นแบบบานเดี่ยวหรือบานคู่ ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่ต้องอพยพ
  • อุปกรณ์เปิดแบบ Panic Bar ช่วยให้เปิดประตูได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน
  • บานพับแบบทนไฟ เพื่อรองรับน้ำหนักและความร้อนสูง
  • ติดตั้งอุปกรณ์กลไกปิดประตูอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไฟลุกลาม

การตรวจสอบและบำรุงรักษา

ภาพที่ 4 : การบำรุงรักษา

เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ประตูหนีไฟควรได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เช่น

  • ตรวจสอบซีลกันควันว่ายังสมบูรณ์หรือไม่
  • ตรวจสอบอุปกรณ์เปิดประตูให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
  • ตรวจเช็กสภาพของวัสดุประตูและบานพับ

ข้อกำหนดเพิ่มเติมในอาคารแต่ละประเภท

  • ในอาคารสูงหรืออาคารสาธารณะ อาจมีข้อกำหนดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทางหนีไฟ เช่น การติดตั้งระบบควบคุมควัน (Smoke Control) หรือระบบสปริงเกลอร์
  • ในโรงงานอุตสาหกรรม ประตูหนีไฟอาจต้องทนต่อการกระแทกหรือแรงกดที่มากขึ้น

ตำแหน่งการติดตั้ง
ประตูหนีไฟ

ภาพที่ 5 : ตำแหน่งของการติดตั้ง

ประตูหนีไฟต้องติดตั้งในตำแหน่งที่เอื้อต่อการอพยพออกจากพื้นที่อันตรายอย่างรวดเร็ว โดยมีข้อกำหนดสำคัญดังนี้

  • ต้องติดตั้งในเส้นทางอพยพ (Escape Route) เช่น บันไดหนีไฟหรือโถงทางเดินที่นำไปสู่พื้นที่ปลอดภัย
  • ไม่ควรมีสิ่งกีดขวางหน้าประตู เช่น เฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ทำให้ประตูเปิดไม่สะดวก
  • ประตูหนีไฟในอาคารสูง ควรอยู่ห่างจากจุดที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ เช่น ห้องครัว หรือห้องเก็บสารเคมี

ปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับประตูหนีไฟ

ภาพที่ 6 : ปัญหาที่พบ

  • การล็อคประตู มีบางกรณีที่ประตูหนีไฟถูกล็อคด้วยแม่กุญแจหรืออุปกรณ์ที่ทำให้เปิดยาก ซึ่งผิดกฎหมายและเป็นอันตราย
  • ไม่มีการบำรุงรักษา ซีลกันควันเสื่อมสภาพหรือบานพับที่ชำรุดอาจทำให้ประตูหนีไฟไม่สามารถใช้งานได้ในเวลาฉุกเฉิน
  • ติดตั้งในตำแหน่งไม่เหมาะสม เช่น อยู่ใกล้แหล่งเชื้อเพลิงที่ทำให้ทางหนีไฟถูกไฟปิดกั้น

ความสำคัญของการอบรมพนักงาน

เพื่อให้การใช้งานประตูหนีไฟมีประสิทธิภาพ ควรมีการอบรมพนักงานและผู้ใช้อาคารให้เข้าใจวิธีการใช้งาน เช่น

  • การเปิดประตูหนีไฟในกรณีฉุกเฉิน
  • การใช้งาน Panic Bar
  • วิธีปฏิบัติเมื่อได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัย

แนวทางในการเลือกผู้ผลิตและติดตั้งประตูหนีไฟ

  • เลือกผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองมาตรฐาน
  • ตรวจสอบว่าผู้ติดตั้งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการติดตั้งประตูหนีไฟ
  • ขอเอกสารรับรองคุณภาพสินค้า เช่น ใบรับรองมาตรฐานการทนไฟ

นอกจากการติดตั้งและตรวจสอบประตูหนีไฟให้ถูกต้องตามข้อกำหนดแล้ว เจ้าของอาคารควรให้ความสำคัญกับการจัดทำแผนอพยพฉุกเฉิน (Emergency Evacuation Plan) ที่สอดคล้องกับตำแหน่งของประตูหนีไฟ การเตรียมพร้อมและการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในกรณีที่มีผู้รับเหมา หรือพนักงานทุกคนที่ทำงานในพื้นที่เสี่ยงต้องผ่านการอบรมด้านความปลอดภัยในที่ทำงาน ซึ่งครอบคลุมหัวข้อสำคัญ เช่น การรับมือเหตุฉุกเฉิน การใช้อุปกรณ์ความปลอดภัย การทราบตำแหน่งทางออกฉุกเฉิน และการอพยพหนีไฟเบื้องต้น  ระบบจัดการใบอนุญาตเข้าทำงาน (EWS) ของ Jorpor Plus ยังช่วยให้การอบรม การออกใบอนุญาต และการตรวจสอบเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยลดกระบวนการทำงานที่ยุ่งยาก และทำให้มั่นใจได้ว่าทุกคนที่เข้าทำงานในพื้นที่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย

นอกจากนี้ ระบบตรวจสอบสภาพการณ์ (ESS) ของ Jorpor Plus ยังเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญในการบันทึกข้อมูล หากพนักงานหรือหัวหน้างานพบปัญหาเกี่ยวกับประตูหนีไฟหรือสิ่งผิดปกติอื่นในสถานที่ทำงาน ข้อมูลเหล่านี้สามารถบันทึกลงในระบบได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (Safety Officer) สามารถตรวจสอบและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในองค์กรอย่างรอบด้าน Jorpor Plus ทั้งครอบคลุมและตอบโจทย์องค์กรต่างๆ มีทดลองให้ใช้ฟรีแล้ว  กดคลิก ได้เลย

ให้คำปรึกษาฟรี!!!

คุณชัญญา เพชรมณีโชติ (แนน
chunya@factorium.tech
061-546961

คุณนรีพร ใสสม (ส้มโอ
Nareeporn@factorium.tech
065-9647198

Website: https://www.jorporplus.com/
Facebook: https://www.facebook.com/JorPorPlus
Line Official : https://lin.ee/dOulra8
Youtube: https://www.youtube.com/playlist?list=PL0b92T8M8rKX1jrpbfpBgozl6Dk3y-nu8