“JSA” คือ การชี้บ่งอันตรายด้วยวิธี Job Safety Analysis เป็นวิธีหนึ่งในการชี้บ่งอันตรายในกระบวนการจัดการความเสี่ยง โดยเป็นการค้นหาอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอนของงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน จึงต้องกำหนดมาตรการในการควบคุมป้องกันอันตรายอันนำไปสู่การจัดทำแผนจัดการความเสี่ยงต่อไป นอกจากนั้นการชี้บ่งอันตรายด้วยวิธี JSA ยังเป็นวิธีการที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพในการนำไปจัดทำข้อบังคับว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงานตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2549
เมื่อเราทำ JSA แล้ว เราจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการทำงานต่างๆ ซึ่งทำให้เราสามารถวางแผนการป้องกันและควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างปลอดภัยมากที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยให้เราเข้าใจถึงกระบวนการทำงานในระดับที่ละเอียดมากขึ้น และสามารถวางแผนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ภาพที่ 1 : JSAคืออะไร
วัตถุประสงค์ของการจัดทำ JSA
- สามารถนำผลการวิเคราะห์ไปกำหนดเป็นมาตรฐานความปลอดภัย และนำไปสู่แผนป้องกัน รวมถึงใช้ในการวางแผนงานด้านความปลอดภัย
- เพื่อช่วยให้ขั้นตอนในการทำงานปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงสภาพแวดล้อมในการทำงานให้ดีขึ้น
- เพื่อสร้างทัศนคติความปลอดภัยให้แก่พนักงาน
- เพื่อลดอุบัติเหตุจากการทำงาน
ประโยชน์ของการทำJSA
- เพื่อชี้บ่งอันตรายที่มีอยู่ และอันตรายที่จะเกิดขึ้น
- เพื่อสร้างจิตสำนึกให้พนักงานตระหนักถึงความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา
- เพื่อนำผลการวิเคราะห์ไปใช้ในการจัดทำแผนจัดการความเสี่ยงในสถานประกอบการ
- เพื่อนำผลของการวิเคราะห์งาน ไปจัดทำเป็นข้อบังคับที่ว่าด้วยความปลอดภัยในการทำงาน และสามารถใช้อบรมพนักงานใหม่ และพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในปัจจุบัน
4 ขั้นตอนพื้นฐานในการจัดทำ JSA
ภาพที่ 2 : ขั้นตอนการจัดทำJSA
ขั้นตอนที่ 1 การเลือกงานที่ทำการวิเคราะห์อาศัยหลักเกณฑ์ต่อไปนี้เป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจ
- เป็นงานที่มีความถี่หรือความรุนแรงในการเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างสูงหรือมีแนวโน้มไม่ลดลง
- เป็นงานที่มีโอกาสที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยการเดินสำรวจเบื้องต้น ดูจากหน้างานจริง
- เป็นงานใหม่ หรือเป็นงานที่มีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง เพิ่มเติม ในส่วนของวิธีการ กิจกรรม ขั้นตอน หรือเครื่องจักร / อุปกรณ์
- เป็นงานที่มีผู้ปฏิบัติงานจำนวนมาก
ขั้นตอนที่ 2 การจัดลำดับวิธีการทำงานเป็นขั้นตอนที่เหมาะสม เช่น เขียนขั้นตอนตามลำดับของงาน
ขั้นตอนที่ 3 การค้นหาอันตรายที่จะเกิดขึ้น ในแต่ละขั้นตอน เช่น
- การตกจากที่สูง
- สัมผัสหรือสูดดมสารเคมี
- สัมผัสความร้อน
- เสียงจากการทำงานดังเกินมาตรฐานกำหนด
- วัตถุหรือสิ่งของหนีบหรือดึง
- เศษวัสดุกระเด็นเข้าตา
- อุบัติเหตุจากเครื่องจักรหรือยานพาหนะ
- ฝุ่นหรือควันเข้าสู่ร่างกาย
- วัตถุหรือสิ่งของตัด บาด ทิ่ม แทง
- ยกหรือเคลื่อนย้ายของหนัก
- อาการเจ็บป่วยจากท่าทางการทำงาน
- ผลจากการสัมผัสความร้อนสูง
- ผลจากการสัมผัสความเย็นจัด
- อันตรายจากรังสี แสง และอื่นๆ
ขั้นตอนที่ 4 การกำหนดวิธีการทำงานที่ถูกต้องปลอดภัย และสามารถป้องกันอันตรายที่พบได้
วิเคราะห์หาอันตรายโดยพิจารณาจาก PEME
ภาพที่ 3 : วิเคราะห์หาอันตรายโดยพิจารณาจาก PEME
วิเคราะห์หาอันตรายโดยพิจารณาจาก PEME ได้แก่
- P People
- E Equipment
- M Material
- E Environment
คน (People)
– สิ่งที่สัมผัสแล้วก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน หรือโรคจากการทำงาน
อุปกรณ์ (Equipment)
– อุปกรณ์หรือเครื่องจักรใดที่เกิดการเสื่อมสภาพ และไม่ได้รับการแก้ไข
– อุบัติเหตุใดบ้างเกิดขึ้นบ่อย ที่เกิดจากอุปกรณ์ หรือเครื่องจักร
วัสดุ (Material)
– ปัญหาใดบ้างที่เกิดขึ้นจากการยกของ ขนย้าย หรือลำเลียงวัสดุ
สิ่งแวดล้อม (Environment)
– ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมใดบ้าง ที่จะทำให้เกิดความสูญเสียในด้านความปลอดภัย คุณภาพงานการผลิต รวมถึงผลกระทบร้ายแรงอื่นๆ
แบบการชี้บ่งอันตรายด้วยวิธี JSA
หลักการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัยอาศัยหลัก 3 ประการ คือ
1. ตระหนักถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากการทำงาน
2. ประเมินผลของอันตรายนั้น
3. หามาตรการป้องกันหรือควบคุมอันตรายนั้น
ภาพที่ 4 : ตัวอย่างแบบฟอร์มการชี้บ่งอันตรายด้วยวิธีJSA
กรณีที่สถานประกอบการได้มีการวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานไว้อยู่แล้ว ก็สามารถนำการวิเคราะห์นั้นมาทบทวนดู ว่าในปัจจุบันการปฏิบัติงานในขั้นตอนนั้น ยังคงเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการทำงานแต่JSA ของสถานประกอบการไม่ถูกเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ก็จะทำให้งานที่เราวิเคราะห์ไม่ตรงตามความเป็นจริง และส่งผลให้มาตรการป้องกันและควบคุมอันตรายนั้น ไม่มีประสิทธิภาพตามไปด้วย และที่สำคัญต้องทำให้ครบทุกงานเพื่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน
ใครบ้างที่ต้องทำ JSA
ภาพที่ 5 : ใครบ้างที่ต้องทำJSA
การวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย จะต้องพิจารณาเป็นขั้นตอนงาน เพื่อให้รู้ถึงอันตรายเพื่อหามาตรการป้องกันและควบคุมให้ถูกต้องเหมาะสม ขั้นตอนการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย ต้องทำโดยให้ผู้เกี่ยวข้องทุกส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นผู้ปฏิบัติงาน หัวหน้างาน และ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน โดยอย่างน้อยจะต้องมี 3 ส่วนนี้ เพื่อให้การวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย ออกมาอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ปลอดภัย และสามารถปฏิบัติได้จริง ซึ่งบทบาทหน้าที่ของผู้มีส่วนร่วมในการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย 3 ส่วน มีรายละเอียดดังนี้
- ผู้ปฏิบัติงาน
เนื่องจากผู้ปฏิบัติงานนั้น เป็นผู้ที่ทำงานจริง รู้ถึงจุดเสี่ยงหรือสิ่งที่ก่อเกิดให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้ปฏิบัติงานจึงจำเป็นที่จะต้องมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย หากผู้ปฏิบัติงานได้เข้ามากำหนดวิธีการทำงาน รวมถึงร่วมคิดหามาตรการป้องกัน จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงานได้ยิ่งขึ้น - หัวหน้างาน
หัวหน้างานเป็นผู้ควบคุมดูแลการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน และมีความรู้ในหน้างานของตนเอง สามารถเห็นได้ว่าขั้นตอนการทำงานไหนมีความเสี่ยงอะไรบ้าง หัวหน้างานจึงจะต้องมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์งานเพื่อความปลอดภัย หลังจากการวิเคราะห์แล้ว จะต้องนำไปจัดทำเป็นมาตรฐานวิธีการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย และหัวหน้างานต้องควบคุมให้ผู้ปฏิบัติงานทำตามที่กำหนดไว้ - เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป)
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน หรือ จป. ต้องเป็นผู้กำหนดมาตรการป้องกันอันตราย ที่ถูกวิเคราะห์มาจากขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับตัวผู้ปฏิบัติงาน และจะต้องร่วมกันวิเคราะห์ กับผู้ปฏิบัติงาน หัวหน้างาน ว่าสิ่งที่เรากำหนดขึ้นมาสามารถทำได้จริงหรือไม่ หากพบปัญหาจะได้ช่วยกันแก้ไข ปรับปรุง ให้สามารถนำไปใช้ได้จริงและมีประสิทธิภาพ
การทำงานในอุตสาหกรรมทุกวันนี้เริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้น และการปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงต้องพิจารณาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด ซึ่งจากการทำงานเชิงปฏิบัติการ มีความสำคัญที่จะต้องทำให้ครบถ้วนทุกขั้นตอนและเห็นถึงความสำคัญของการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้แก่องค์กร
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทาง JorPor Plus เองจึงนำหัวข้อต่างๆ ของJSA มาประยุกต์ใช้ในแอปพลิเคชันไว้ในที่เดียว จึงเป็นสิ่งที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรามีระบบจัดการใบอนุญาตเข้าทำงาน (EWS) มีในส่วนของการทำJSA ซึ่งครอบคลุมตามหัวข้อที่ครบถ้วน เรียกได้ว่าพร้อมใช้งาน สะดวกสำหรับจป เลยทีเดียว
การใช้เทคโนโลยีในการช่วยทำให้งานของจป ดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยเฉพาะJSA ไม่เพียงแต่ทำให้กระบวนการนั้นรวดเร็วและสะดวกมากขึ้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการทำงานได้และลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีที่มี JSA ด้วย เป็นสิ่งที่ JorPor Plus ให้ความสำคัญ ทั้งในเรื่องของความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการทำงาน เพื่อให้ทีมงานทำงานอย่างปลอดภัยและมั่นใจในการปฏิบัติงานตามระเบียบอย่างแท้จริง Jorpor Plus พร้อมให้คำปรึกษาฟรี มีทดลองให้ใช้ฟรีแล้ว กดคลิก ได้เลย
ให้คำปรึกษาฟรี!!!
คุณชัญญา เพชรมณีโชติ (แนน)
chunya@factorium.tech
061-546961
คุณนรีพร ใสสม (ส้มโอ)
Nareeporn@factorium.tech
065-9647198
Website: https://www.jorporplus.com/
Facebook: https://www.facebook.com/JorPorPlus
Line Official : https://lin.ee/dOulra8
Youtube: https://www.youtube.com/playlist?list=PL0b92T8M8rKX1jrpbfpBgozl6Dk3y-nu8